บทความนี้ประกอบไปด้วย
- 🥇1. ExpressVPN— VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมในปี2024
- 🥈2. CyberGhost VPN— VPN ที่ดีมากๆสำหรับใช้สตรีมมิ่ง(มีให้ทดลองใช้ฟรีและคืนเงินได้ภายใน45 วัน)
- 🥉3. Proton VPN — แผนฟรีที่ยอดเยี่ยม ไม่จำกัดข้อมูล + ความเร็วสูง
- 4. hide.me— VPN ฟรีดีใช้ได้สำหรับโหลดtorrent
- 5. Hotspot Shield — เหมาะสำหรับการใช้งานที่ปลอดภัย
- 6. Windscribe— VPN ฟรีดีใช้ได้สำหรับสตรีมมิ่ง
- 7. TunnelBear— VPN ฟรีที่ดีมากสำหรับผู้ใช้งานใหม่
- โบนัส. Private Internet Access— VPN ราคาไม่แพงที่มีความเร็วสูง
- การเปรียบเทียบระหว่างVPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี2024
- วิธีการเลือกVPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี2024
- ความเสี่ยงและข้อเสียของการใช้VPN ฟรี
- VPN ฟรีvs. VPN จ่ายเงิน
- VPN ฟรีหาเงินมาจากไหน?
- VPN ฟรีนั้นเหมาะกับใคร?
- วิธีการรับบริการVPN พรีเมียมฟรี
- VPN ฟรีที่ควรหลีกเลี่ยง
- คำถามพบบ่อย
- VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี2024— คะแนนสุดท้าย:
ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือVPN ฟรีที่ดีที่สุดปี2024
- 🥇ExpressVPN:มันไม่มีแพลนระดับฟรีแต่คุณจะหาVPN ที่ดีไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว2024แถมมันยังมีการรับประกันคืนเงินภายใน30 วันซึ่งก็หมายความว่าคุณสามารถทดลองใช้งานมันได้ตลอดทั้งเดือนอย่างไม่มีความเสี่ยงExpressVPN นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับชั้นนำของโลกความเร็วขั้นสูงสุดและบริการเสริมสุดพิเศษอย่างsplit tunneling และการป้องกันมัลแวร์รวมถึงสามารถรองรับการสตรีมมิ่งและการโหลดtorrent ได้ดีเยี่ยมอีกด้วย
ฉันไม่ค่อยชอบVPN ฟรีสักเท่าไหร่นักและฉันไม่ค่อยอยากแนะนำให้ใช้มันในขณะที่VPN ฟรีมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ดีอย่างเช่นการเข้ารหัสระดับเดียวกับธนาคารที่จะช่วยซ่อนข้อมูลการใช้งานของคุณแต่บริการส่วนใหญ่นั้นจำกัดการใช้งานมากเกินไปจนไม่คุ้มค่าจะเสียเวลามาใช้งาน
บริการVPN ฟรีส่วนใหญ่ยังอันตรายมากอีกด้วยอย่างร้ายแรงที่สุดบริการเหล่านั้นสามารถทำให้อุปกรณ์ของคุณติดมัลแวร์หรือขายข้อมูลส่วนตัวของคุณอย่างเช่นเว็บไซต์ที่เข้าใช้งานหรือหมายเลขIP ของคุณให้แก่บุคคลที่สามVPN ฟรีที่สามารถใช้งานได้จริงก็มักจะขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยหลายอย่างไปจำกัดข้อมูลการใช้งานอย่างมากมีความเร็วต่ำนำเสนอแอปเวอร์ชั่นเก่าหรือไม่ก็ใช้งานไม่ได้เลย
แม้แต่แผนฟรีจากบริการVPN ชั้นนำยังมีข้อเสียหลายอย่างตัวอย่างเช่นตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์แค่สองสามตำแหน่งหลายบริการไม่รองรับการสตรีมหรือทอร์เรนต์หลายฟีเจอร์ถูกปิดกั้นให้ใช้เฉพาะแผนพรีเมี่ยมบางบริการจำกัดการเข้าถึงการช่วยเหลือ(เช่นไลฟ์แชท) และอนุญาตให้ใช้งานกับ1 อุปกรณ์เท่านั้น
ประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากVPN พรีเมี่ยมนั้นมากกว่าVPN ฟรีอย่างมากบริการVPN พรีเมียมชั้นนำนั้นนำเสนอประโยชน์ที่มากกว่าเช่นฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงความเร็วสูงข้อมูลการใช้งานไม่จำกัดให้คุณสามารถเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกันรองรับการสตรีมและทอร์เรนต์และแอปสำหรับระบบปฏิบัติการชั้นนำใช้งานได้อย่างน่าเชื่อถือและใช้งานได้ง่ายฉันแนะนำให้คุณเลือกใช้บริการVPN พรีเมียมราคาถูก(ExpressVPN เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในปี2024)
อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการVPN ฟรีไปใช้จริงๆฉันก็มีตัวเลือกที่ดีจำนวนมากนำเสนอบริการVPN ฟรีทั้งหมดในรายการนี้นั้นใช้งานได้อย่างปลอดภัยมีฟีเจอร์เพิ่มเติมและใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ทดลองใช้EXPRESSVPN ได้เลยตอนนี้(ใช้อย่างได้อย่างปลอดภัย30 วัน)
สรุปโดยย่อเกี่ยวกับVPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี2024:
- 1. 🥇ExpressVPN — VPN ที่ดีที่สุดในภาพรวมปี 2024ฟีเจอร์ความปลอดภัยชั้นหนึ่งความเร็วสูงเป็นพิเศษรองรับการสตรีมมิ่งและการโหลดtorrent ได้เป็นอย่างดีและก็มีแอปที่ใช้งานง่ายมากๆสำหรับหลายระบบปฏิบัติการถึงแม้ว่ามันจะไม่ฟรีแต่มันก็มีการรับประกันคืนเงินภายใน30 วัน
- 2. 🥈CyberGhost VPN — VPN ฟรี ที่ดีที่สุดสำหรับใช้สตรีมมิ่ง มันมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่งถึง 100+ เซิร์ฟเวอร์ซึ่งใช้งานได้กับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งถึง 50+ แพลตฟอร์ม ซึ่งรวมถึง Netflix, BBC iPlayer หรือ Max ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีแพลนระดับฟรี แต่มันก็มีให้ทดลองใช้งานฟรี 24 ชั่วโมง และก็มีระยะเวลาการรับประกันคืนเงินที่ยาวนานถึง 45 วัน
- 3. 🥉 Proton VPN — VPN ที่ดีมีข้อมูลไม่จำกัด& ความเร็วสูง+ ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว
- 4. hide.me — บริการฟรีที่รองรับการทอร์เรนต์+ เซิร์ฟเวอร์ที่ดี(ไม่จำกัดข้อมูล)
- 5. Hotspot Shield — VPN ฟรีที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปไม่จำกัดข้อมูล+ ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ดี
- และอีก3 รายการ!
- การเปรียบเทียบระหว่างVPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี2024
🥇1. ExpressVPN— VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมในปี2024
ExpressVPNนั้นไม่ได้ฟรี100% แต่ว่ามันเป็นVPN ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถใช้งานได้และทุกคำสั่งซื้อนั้นก็มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน30 วัน— ดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองใช้งานมันและก็สามารถขอคืนเงินเต็มจำนวนได้ถ้าคุณไม่พอใจการให้บริการอย่างไรก็ตามคุณลองใช้ดูไม่นานคุณเองก็คงจะรู้แล้วว่าทำไมExpressVPN ถึงเป็นVPN ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมนี้มันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ดีที่สุดมันเป็นVPN ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีมมิ่งโหลดtorrent และเล่นเกมมันมีความเร็วสูงที่สุดและก็มีแอปที่ใช้งานง่ายพร้อมมีUI ภาษาไทยสำหรับแทบจะทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
ExpressVPN นั้นมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมนอกจากนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบอย่างอิสระมาแล้วนั้นมันก็ยังมี:
- เทคโนโลยีTrustedServerนี่หมายความว่าจะไม่มีข้อมูลใดๆทั้งสิ้นถูกบันทึกไว้ในฮาร์ดไดรฟ์และข้อมูลทั้งหมดนั้นก็จะถูกลบในทุกๆครั้งที่เซิร์ฟเวอร์ถูกปิด/เปิดแถมมันยังได้รับการตรวจสอบยืนยันจากภายนอกแล้วด้วย
- Perfect forward secrecyคีย์การเข้ารหัสจะถูกเปลี่ยนทุกครั้งที่คุณทำการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์
- การป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบExpressVPN นั้นมีการป้องกันการรั่วไหลของDNS, WebRTC และIPv6
- ExpressVPN Keysนี่คือเครื่องมือจัดการรหัสผ่านซึ่งจะช่วยปกป้องรหัสผ่านทั้งหมดของคุณและช่วยสร้างรหัสผ่านที่มีความแน่นหนา
ExpressVPN มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมที่มีชื่อว่าAdvanced Protectionนี่คือเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ(ใช้งานได้ดีมาก) มีตัวเลือกให้ปิดกั้นเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่และยังมาพร้อมกับThreat Managerฟีเจอร์นี้จะช่วยปิดกั้นการเชื่อมต่อเว็บที่เป็นอันตรายและยังปิดกั้นเครื่องมือติดตามได้อีกด้วยนอกจากนี้แอปเดกส์ทอปยังอัพเดทฟีเจอร์ความปลอดภัยอัตโนมัติเพื่อให้คุณได้รับการป้องกันอย่างเต็มที่อยู่ตลอดเวลา
เมื่อเทียบบริการอื่นๆExpressVPN บริการVPN ฟรี1 เดียวในรายการนี้(Proton VPN) ให้คุณเข้าถึงแค่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านบริการฟรีอื่นๆอย่างWindscribe ไม่มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาในแผนฟรีด้วยซ้ำไป
ในการทดสอบความเร็วของเรา ExpressVPN นั้นมีผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมาก ไม่ว่าเราจะเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงหรืออยู่ห่างไกล เว็บไซต์ที่เราเข้านั้นต่างก็โหลดเสร็จในทันที วิดีโอก็เริ่มเล่นในทันที เราสามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาด 20 GB เสร็จภายในเวลา 13 นาที และตอนเล่นเกมก็ไม่มีอาการแลคเลย
ในขณะที่VPN ฟรีส่วนใหญ่ในรายการนี้มีความเร็วสูงบนเซิร์ฟเวอร์ในตำแหน่งใกล้เคียงแต่มีบริการหนึ่ง(TunnelBear) ที่จำกัดจำนวนเซิร์ฟเวอร์แก่ผู้ใช้ฟรีอย่างมากนั่นหมายความว่าผู้ใช้บางคนอาจไม่สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียงได้ดังนั้นความเร็วการเชื่อมต่อจะลดลงอย่างมากอย่างไรก็ตามExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากนำเสนอในกว่า105 ประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วย
นอกจากนี้บริการยังนำเสนอฟีเจอร์Split-tunneling ซึ่งให้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้แอปใดผ่านVPN และแอปใดที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายปกติตัวอย่างเช่นคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อมต่อเว็บทอร์เรนต์ผ่านExpressVPN และรับชมNetflix ผ่านเครือข่ายในบ้าน
ถ้าคุณชอบสตรีมหนังหรือรายการทีวีคุณจะต้องชอบบริการของExpressVPN อย่างแน่นอนบริการสามารถเข้าถึงแอปสตรีมมิ่งชั้นนำได้ทั้งหมดรวมถึงNetflix, Amazon Prime, Disney+, และHulu รวมถึงบริการสตรีมมิ่งอีกกว่า100+ บริการVPN ฟรีในรายการนี้ที่รองรับการสตรีมคือWindscribe และTunnelBear แต่ทั้งสองบริการจำกัดข้อมูลการใช้งานอยู่ที่10 GB และ2 GB ดังนั้นคุณจะไม่สามารถสตรีมรายการต่างๆได้ตามต้องการฉันชอบที่บริการเหล่านี้มาพร้อมกับฟีเจอร์smart DNS (บริการเรียกว่าMediaStreamer) ที่ให้คุณสามารถใช้VPN กับอุปกรณ์ที่ไม่รองรับVPN อย่างเช่นคอนโซลเกมและสมาร์ททีวี
นอกจากนี้บริการยังรองรับการเชื่อมต่อแบบP2P ด้วยการอนุญาตให้ทอร์เรนต์ในทุกเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในกว่า105 ประเทศ(Proton VPN และHotspot Shield ไม่อนุญาตให้ทอร์เรนต์ด้วยบริการฟรี) นอกจากนี้ยังใช้งานกับบริการP2P ชั้นนำอย่างqBittorrent และuTorrent ได้อีกด้วย
ฉันชื่นชอบการใช้ExpressVPN เพื่อเล่นเกมเป็นอย่างมากเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดมาพร้อมกับการป้องกันDDoS เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นโจมตีการเชื่อมต่อของคุณนอกจากนี้หากคุณชื่นชอบการเล่นเกมบนคลาวด์ExpressVPN สามารถเข้าถึงบริการเหล่านี้ได้อย่างน่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแอปสำหรับเราท์เตอร์ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อVPN กับคอนโซลเกมได้อุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเราท์เตอร์จะได้รับการป้องกันจากExpressVPN ในขณะที่VPN นี้อนุญาตให้ใช้งานได้บน8 อุปกรณ์ในบัญชีเดียวบริการฟรีอย่างProton VPN, Hotspot Shield และhide.me อนุญาตให้เชื่อมต่อแค่1 อุปกรณ์เท่านั้น
ExpressVPN นั้นยังมีการทำ obfuscation กับเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดอีกด้วย และตัวแทนฝ่ายให้บริการลูกค้าของพวกเขาก็ได้ยืนยันแล้วว่ามันสามารถใช้งานในประเทศที่ถูกจำกัดอย่างในจีนได้ แถมมันยังดีมากที่ ExpressVPN จะช่วยปกป้องคุณบน dark web ได้ — มันรองรับทราฟฟิคของ Tor บนทุกเซิร์ฟเวอร์และทุกตำแหน่ง
ExpressVPNมีแพลนทั้งแบบรายเดือนและรายปีและด้วยการใช้ข้อเสนอลดราคา49%ของเราคุณก็จะสามารถรับบริการได้ในราคาต่ำสุดถึง£5.24 / เดือน(นอกจากนี้มันก็มักจะมีข้อเสนอแถมเดือนให้บริการฟรีอีกด้วย) และก็อย่าลืมว่าExpressVPN นั้นรับประกันคืนเงินแพลนทั้งหมดเป็นเวลา30 วัน
อ่านรีวิว
ExpressVPN: ประหยัด49% สำหรับ 12-month plan + รับเดือนใช้ฟรี!
รับส่วนลด 12 เดือน + ฟรี 3 เดือนในราคา 49% (ใช้คูปองอัตโนมัติเมื่อชำระเงิน)
สำเร็จ 60%
รับข้อเสนอ
สรุป:
ExpressVPN นั้นมีความคุ้มค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับ VPN ทุกตัวที่เปิดให้บริการในปี 2024 คุณจะหา VPN ที่เร็วและปลอดภัยไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว นอกจากนี้มันยังสามารถใช้งานกับเว็บไซต์สตรีมมิ่ง สามารถใช้โหลดบิท สามารถใช้งานในประเทศที่ถูกจำกัด รองรับทราฟฟิค Tor และก็มีฟีเจอร์กับแอปที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานอีกด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีแพลนระดับฟรี แต่มันก็มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันสำหรับทุกการสั่งซื้อ
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับExpressVPN ได้ที่นี่
🥈2. CyberGhost VPN— VPN ที่ดีมากๆสำหรับใช้สตรีมมิ่ง(มีให้ทดลองใช้ฟรีและคืนเงินได้ภายใน45 วัน)
CyberGhost VPNนั้นไม่ได้ฟรีซะทีเดียวแต่มันมีให้ทดลองใช้ฟรีได้24 ชั่วโมง— คุณไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อที่จะทดลองใช้ฟรีและคุณก็จะสามารถลองใช้งานฟีเจอร์ของมันได้ทั้งหมดผู้ให้บริการรายนี้นั้นมีรูปแบบการทดลองให้ใช้ฟรีที่ดีที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้นCyberGhost VPN นั้นยังมีการรับประกันคืนเงินยาวนานถึง45 วันสำหรับแพลนระยะยาวทุกแพลน— นี่เป็นเวลาที่มากพอสำหรับให้คุณได้ทดลองใช้งานVPN อย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้มั่นใจได้ว่ามันตรงกับความต้องการของคุณแพลนระยะสั้นที่สุดนั้นจะมีการรับประกันคืนเงินเป็นเวลา14 วันซึ่งก็ยังเป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับการทดลองใช้VPN
เราคิดว่า VPN นี้เหมาะมาก ๆ สำหรับใช้สตรีมมิ่งเพราะว่ามันมีเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งถึง 100+ เซิร์ฟเวอร์ ใน 20+ ประเทศ ซึ่งสามารถใช้งานได้กับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งกว่า 50+ แพลตฟอร์ม ซึ่งรวมถึงบริการชั้นนำอย่าง Netflix, Amazon Prime และ Max — ทีมงานนานาชาติของเราได้ทำการทดสอบทั้งเซิร์ฟเวอร์ปกติและเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับสตรีมมิ่ง และก็ได้ยืนยันแล้วว่ามันสามารถใช้งานได้กับ Netflix 15+ ประเทศ , Amazon Prime 5+ ประเทศ และ Max 5+ ประเทศ. อย่างที่ฉันได้กล่าวเอาไว้ในรีวิวExpressVPN ก่อนหน้านี้VPN เดียวในรายการนี้ที่รองรับการสตรีมในแผนบริการฟรีก็คือWindscribe (อนุญาตให้ใช้ข้อมูลจำนวน10 GB ต่อเดือน)
CyberGhost VPN ยังมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ในกว่า11,528 ประเทศกระจายอยู่ในทั่วโลก(รวมถึงในประเทศไทยด้วย)บริการมีมากกว่า40 เซิฟเวอร์ในยุโรป15 เซิฟเวอร์ในอเมริกาอีกกว่า20 เซิฟเวอร์ในเอเชียและแปซิฟิกและกว่า10 เซิฟเวอร์ในแอฟริกาและตะวันออกกลางTunnelBear มีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า47 ประเทศแต่คุณจะถูกจำกัดข้อมูลการใช้งานเอาไว้ที่2 GB ต่อเดือนและVPN ที่นำเสนอตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากพอกันก็คือWindscribe (จำนวนเซิร์ฟเวอร์ไหนมากกว่า10 ประเทศ)
หากพูดถึงการเชื่อมต่อแบบP2P บริการอนุญาตให้คุณทอร์เรนต์บนเซิฟเวอร์ในกว่า70 ประเทศ(รวมถึงประเทศไทย)แต่ฉันชอบบริการจากExpressVPNมากกว่าเพราะให้คุณสามารถเชื่อมต่อแบบP2P บนเซิฟเวอร์ในกว่า105 ประเทศนอกจากนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับใช้เล่นเกมโดยเฉพาะในอีก4 ประเทศ(เซิฟเวอร์ในอเมริกาเยอรมนีฝรั่งเศสและอังกฤษ) เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ถูกปรับให้มีค่าping ต่ำเป็นพิเศษรวมทั้งยังมีฟีเจอร์การป้องกันDDoS อีกด้วยแต่อย่างไรก็ตามCyberGhost นั่นไม่รองรับการเล่นเกมบนคลาวด์
และคุณยังจะได้รีบฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มีความแข็งแกร่งมากๆ— VPN นี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ขั้นสูงอย่างการป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบเซิร์ฟเวอร์แบบRAM-only และperfect forward secrecy รวมถึงมันยังมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบแล้วอีกด้วยยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีContent Blocker (ตัวบล็อกเนื้อหา)ซึ่งจะช่วยบล็อกโฆษณาและสามารถปกป้องคุณจากเว็บไซต์ที่มุ่งร้ายได้
ฉันยังชอบฟีเจอร์Smart Rulesช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าการเชื่อมต่อVPN ในแบบที่เหมาะกับคุณได้ยกตัวอย่างเช่นคุณสามารถตั้งค่าให้เชื่อมต่อCyberGhost VPN อัตโนมัติได้เมื่อคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งหรือเปิดใช้งานแอปสตรีมหรือจะทำการเชื่อมต่อกับเซิฟเวอร์VPN ในทันทีเมื่อตรวจพบการเชื่อมต่อกับเครือข่ายWi-Fi ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อย่างมากหากคุณทำการเชื่อมต่อกับเครือข่ายWi-Fi สาธารณะเป็นประจำนอกจากนี้คุณยังสามารถตั้งค่าให้CyberGhost เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใดเซิร์ฟเวอร์หนึ่งได้ในทันทีที่คุณเปิดใช้งานแอปVPN ไม่มีบริการฟรีใดในรายการนี้ที่ให้คุณสามารถตั้งค่ากฎต่างๆได้มากเท่ากับบริการนี้
ความเร็วที่ดีอีกด้วยในการทดสอบของฉันฉันสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆวิดีโอความคมชัดแบบHD และ4K ได้ในทันทีวิดีโอใช้เวลาโหลดเพียงเล็กน้อยในตอนเริ่มต้นแต่ถึงอย่างนั้นVPN ก็มีความเร็วไม่มากเท่ากับExpressVPNที่มีทั้งความเร็วและจำนวนเซิร์ฟเวอร์มากกว่าที่Proton VPN, Hotspot Shield และhide.me นำเสนอ
ชอบที่ฉันสามารถตั้งค่าการเชื่อมต่อCyberGhost ผ่านเราท์เตอร์ได้โดยตรงเมื่อคุณตั้งค่าการเชื่อมต่อผ่านเราท์เตอร์แล้วคุณก็ไม่ต้องกังวลว่าถึงจำนวนอุปกรณ์ที่บริการจำกัดไว้ซึ่งบริการให้คุณใช้งานได้7 อุปกรณ์อุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อผ่านเราท์เตอร์จะทำการส่งการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์ของCyberGhost ข้อเสียอย่างเดียวก็คือCyberGhost ไม่มีแอปพลิเคชันสำหรับเราท์เตอร์โดยเฉพาะแต่บริการก็นำเสนอคำแนะนำอย่างละเอียดในการติดตั้งเอาไว้ให้แล้ว
CyberGhost VPNมีแพลนราคาย่อมเยาเริ่มต้นที่£1.78 / เดือน— แถมแพลนระยะยาวที่สุดนั้นยังมักจะแถมเดือนให้ใช้ฟรีอีกด้วยและก็อย่าลืมว่ามันมีการรับประกันคืนเงินนาน45 วันสำหรับทุกแพลนระยะยาว
อ่านรีวิว
CyberGhost: ประหยัด84% สำหรับ 24-month plan + รับเดือนใช้ฟรี!
คุณสามารถประหยัด 84% หากคุณใช้ส่วนลดตอนนี้
สรุป:
CyberGhost VPN นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับใช้สตรีมมิ่งเนื่องจากมันมีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานได้กับ50+ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ชั้นนำอย่างNetflix และMax นอกจากนี้มันยังมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่รองรับP2P ได้เป็นอย่างดีมีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่แน่นหนาและก็มีความเร็วสูงมากมันไม่มีแพลนระดับฟรีแต่มันมีให้ทดลองใช้ฟรีได้24 ชั่วโมงและก็มีการรับประกันคืนเงินนานถึง45 วันสำหรับแพลนระยะยาวทั้งหมด
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับCyberGhost VPN
🥉3. Proton VPN — แผนฟรีที่ยอดเยี่ยม ไม่จำกัดข้อมูล + ความเร็วสูง
แผนบริการฟรีของProton VPN ไม่จำกัดข้อมูลการใช้งานและมีความเร็วมากกว่าบริการฟรีอื่นๆการไม่จำกัดข้อมูลหมายความว่าบริษัทไม่ได้จำกัดข้อมูลการใช้งานที่คุณสามารถใช้ได้ในแต่ละวันหรือเดือนนอกจากนี้บริการยังไม่แสดงโฆษณาอีกด้วยซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากเพราะบริการฟรีส่วนใหญ่มักจะจำกัดข้อมูลการใช้งานกับผู้ใช้ฟรีWindscribe และTunnelBear จำกัดจำนวนข้อมูลของผู้ใช้บริการฟรีในแต่ละเดือนและHotspot Shield ก็บังคับให้คุณต้องรับชมโฆษณาที่น่ารำคาญทุกๆ15 นาที
แพลนระดับฟรีของผู้ให้บริการนั้นมีเซิร์ฟเวอร์ให้ใช้งานได้ใน 5 ประเทศ — สหรัฐอเมริกา, เนเธอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, โรมาเนีย และโปแลนด์ ข้อเสียเดียวก็คือคุณจะไม่สามารถเลือกตำแหน่งได้ Proton VPN จะเชื่อมต่อคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดโดยอัตโนมัติ ทางตัวแทนฝ่ายให้บริการลูกค้าได้บอกกับเราว่าถ้าเราต้องการเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ เราจะต้องตัดการเชื่อมต่อและเชื่อมต่อ VPN ใหม่อีกครั้ง แต่ถึงแบบนั้นก็จะยังไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อยู่ดี. คิดถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงเลือกใช้บริการ VPN พรีเมียมอย่าง ExpressVPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์นำเสนอในกว่า 105 ประเทศและให้คุณเลือกเชื่อมต่อได้ตามต้องการ
แผนบริการฟรีของProton VPN มีความเร็วที่ดีเว็บไซต์ต่างๆสามารถโหลดได้ในทันทีวิดีโอความคมชัดระดับHD อาจจะต้องใช้เวลาโหลด1-2 วินาทีและวิดีโอระดับ4K อาจจะต้องใช้เวลาโหลด3-4 วินาทีวิดีโอสะดุดบ้างเพียงเล็กน้อยในตอนต้นProton VPN มีความเร็วมากที่สุดในบรรดาบริการฟรีแต่ความเร็วที่มีก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับExpressVPN หรือCyberghost VPN นอกจากนี้แผนบริการฟรีของProton VPN ยังไม่มีฟีเจอร์VPN Acceleratorที่ช่วยเพิ่มความเร็วบนเซิฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ไกลอีกด้วย
บริการฟรีนี้ก็มาพร้อมกับข้อเสียเช่นกันบริการไม่รองรับการทอร์เรนต์และจำกัดการเชื่อมต่อแค่1 อุปกรณ์เท่านั้น(แต่คุณสามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ได้โดยการเชื่อมต่อผ่านเราท์เตอร์) แต่บริการไม่มีส่วนเสริมสำหรับChrome หรือFireFox
ในขณะที่Proton VPN บอกว่าบริการฟรีนั้นไม่สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งได้แต่ฉันก็สามารถเข้าถึงNetflix US และAmazon Prime US ได้เป็นบางครั้งแต่ไม่สม่ำเสมอบริการไม่มีเครื่องมือปิดกั้นโฆษณาblocker (NetShield), ฟีเจอร์Split-tunneling, Port forwarding, เซิฟเวอร์Secure Coreที่จะช่วยแยกการเชื่อมต่อของคุณผ่าน2 เซิฟเวอร์หรือการเข้าถึงการช่วยเหลือผ่านไลฟ์แชท
เราชอบมากที่แพลนระดับฟรีของ Proton VPN นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวขั้นสูงอย่างเช่นperfect forward secrecy, การป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบและการเข้ารหัสดิสก์อย่างเต็มรูปแบบซึ่งจะช่วยทำให้ข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถถูกเปิดอ่านได้นอกจากนี้แอปของProton VPNนั้นยังเป็นแบบโอเพนซอร์ซทั้งหมดซึ่งก็แปลว่าใครก็สามารถเปิดดูซอร์สโค้ดเพื่อตรวจสอบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้และนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลของมันก็ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างอิสระมาแล้ว
สุดท้าย คุณสามารถดาวน์โหลด Proton Pass มาใช้งานพร้อมกับ Proton VPN ได้— เครื่องมือจัดการรหัสผ่านฟรีปลอดภัยและเป็นแบบโอเพนซอร์ซซึ่งทำงานได้เป็นอย่างดีนอกจากจะสามารถเก็บและสร้างรหัสผ่านได้แล้วมันยังสามารถตั้งชื่ออีเมลที่ไม่ซ้ำใครเพื่อช่วยปกป้องที่อยู่อีเมลจริงของคุณไม่ให้ถูกติดตามและถูกสแปมได้ด้วย— ซึ่งก็เจ๋งมาก
หากเลือกบริการพรีเมี่ยม(แผนPlus) คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอย่างเช่นตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์มากกว่า2900 เซิร์ฟเวอร์ใน85 ประเทศ(รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย)เซิฟเวอร์สำหรับสตรีมมิ่งโดยเฉพาะอีกกว่า30 เซิฟเวอร์เซิร์ฟเวอร์สำหรับP2P ในกว่า50 ประเทศ(รวมถึงในประเทศไทย)และสามารถใช้งานได้บน10 อุปกรณ์แต่ถึงอย่างนั้นExpressVPN และCyberGhost VPN ก็ให้ความคุ้มค่าที่มากกว่าทั้งในด้านจำนวนเซิร์ฟเวอร์การเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งและการรองรับการเชื่อมต่อแบบP2P
แพลนจ่ายเงินของ Proton VPNมีราคาเริ่มต้นที่£3.94 / เดือนและก็มีการรับประกันคืนเงินตามสัดส่วนเป็นเวลา30 วัน
อ่านรีวิว
Proton VPN: ประหยัด 50% สำหรับ 24-month plan!
ส่วนลด 50% 24-month plan!
สำเร็จ 60%
รับข้อเสนอ
สรุป:
Proton VPN เป็นบริการเดียวที่นำเสนอแผนบริการฟรีที่ให้คุณใช้งานได้โดยไม่มีการจำกัดข้อมูลให้คุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใน5 ประเทศ(อเมริกาเนเธอร์แลนด์ญี่ปุ่นโรมาเนียและโปแลนด์) มีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่งความเร็วสูงแผนพรีเมียมนำเสนอเซิร์ฟเวอร์เพิ่มเติมรองรับการสตรีมและP2P มีฟีเจอร์เพิ่มเติมอย่างการปิดกั้นโฆษณาและSplit-แผนพรีเมียมมีราคาไม่แพงและมาพร้อมกับการการันตีคืนเงินตามการใช้งานภายใน30 วัน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับProton VPN ได้ที่นี่
4. hide.me— VPN ฟรีดีใช้ได้สำหรับโหลดtorrent
hide.me เป็นบริการฟรีเดียวที่อนุญาตให้เชื่อมต่อแบบP2P บริการไม่จำกัดจำนวนข้อมูลการใช้งานดังนั้นคุณสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้มากเท่าที่ต้องการและยังสามารถใช้งานได้กับบริการP2P ชั้นนำอย่างuTorrent และqBittorrent
แพลนระดับฟรีของVPN นั้นเปิดให้คุณเข้าถึงได้5+ ประเทศซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาสหราชอาณาจักรสิงคโปร์และเยอรมนี
เมื่อพูดถึงเรื่องความเร็วแล้ว แพลนระดับฟรีของ hide.me นั้นก็ถือว่าเร็วมาก— เว็บไซต์มักจะโหลดเสร็จในทันทีวิดีโอระดับHD ใช้เวลา2–3 วินาทีและตอนที่เราโหลดบิทขนาด2.2 GB ก็ใช้เวลาแค่6–7 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้แผนบริการฟรียังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ดีอย่างเซิร์ฟเวอร์RAM, Perfect forward secrecy, การป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบและนโยบายไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด
Hide.me มีแอปที่ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับมือใหม่อินเตอร์เฟสเรียบง่ายและใช้งานได้ง่ายฟีเจอร์การปรับแต่งทั้งหมดมีคำอธิบายอย่างชัดเจนดังนั้นคุณไม่ต้องเสียเวลาGoogle 5 ความหมายและวิธีใช้เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยใช้VPN มาก่อนนอกจากนี้แผนบริการฟรียังให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์Split-tunneling และไลฟ์แชทได้อีกด้วย
แต่แผนฟรีก็มักจะมาพร้อมกับข้อจำกัดคุณสามารถเชื่อมต่อกับได้เพียงอุปกรณ์เดียว(ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่านเราท์เตอร์) ไม่รองรับบริการสตรีมมิ่งแต่บริการนำเสนอส่วนขยายบนChrome ฟรี
เวอร์ชันจ่ายเงินของ hide.me นั้นเปิดให้เชื่อมต่อได้ 10 การเชื่อมต่อ และก็จะเพิ่มการรองรับการสตรีมมิ่งที่มีคุณภาพดี ทำให้สามารถใช้งานมันกับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Netflix และ Amazon Prime ได้ — อย่างไรก็ตาม มันใช้งานกับ Hulu ไม่ได้
คุณยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ Multihop ซึ่งจะส่งข้อมูลของคุณผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN 2 เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มชั้นการป้องกันให้กับคุณ ฟีเจอร์ Bolt นั้นยังเป็นฟีเจอร์ทดลองแต่คุณสามารถใช้งานได้ ฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มความเร็วการเชื่อมต่อให้คุณอย่างมาก ต่อมาคือฟีเจอร์ Port forwarding ที่ให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับ peer ได้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วการดาวน์โหลด P2P
แพลนแบบจ่ายเงินนั้นยังเปิดให้คุณเข้าถึงเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของผู้ให้บริการได้อีกด้วยซึ่งก็มีจำนวนถึง2,300+เซิร์ฟเวอร์ใน50+ ประเทศ
hide.me นั้นมีแพลนราคาไม่แพงเริ่มต้นที่£1.75 / เดือนมีการรับประกันคืนเงินภายในเวลา30 วันสำหรับทุกแพลน
สรุป:
hide.me มีแผนบริการฟรีที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทอร์เรนต์มีเซิฟเวอร์ใน8 ประเทศรองรับการเชื่อมต่อแบบP2P ไม่จำกัดข้อมูลการใช้งานและไม่แสดงโฆษณาบริการมีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ดีแต่จะจำกัดความเร็วของคุณไม่รองรับการสตรีมมิ่งและไม่สามารถใช้งานบนเราเตอร์ได้แผนพรีเมียมเพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัยและจำนวนเซิร์ฟเวอร์ให้กับคุณรองรับการสตรีมมิ่งและแผนพรีเมียมทุกแผนยังมาพร้อมกับการการันตีคืนเงินภายใน30 วันอีกด้วย
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับhide.me ได้ที่นี่
5. Hotspot Shield — เหมาะสำหรับการใช้งานที่ปลอดภัย
แพลนระดับฟรีของHotspot Shield นั้นเหมาะมากสำหรับใช้ท่องเว็บเนื่องจากมันมีข้อมูลให้ใช้ได้ไม่จำกัดดังนั้นก็จะไม่มีข้อจำกัดว่าคุณจะเข้าดูได้กี่เว็บไซต์หรือสามารถดูวิดีโอได้มากแค่ไหน
อย่างไรก็ตามบริการบันทึกหมายเลขIP ของคุณและแสดงโฆษณาโฆษณาพวกนี้ยังน่ารำคาญมากด้วยมันมีความยาว30 วินาทีและโผล่ขึ้นมาในทุกๆ15 นาทีที่คุณใช้งานVPN แถมยังมีโฆษณาป๊อปอัพโผล่ขึ้นมาทุกครั้งที่คุณเปิดหรือปิดการเชื่อมต่ออีกด้วยฉันชอบที่Proton VPNและhide.meไม่บันทึกหมายเลขIP และยังไม่แสดงโฆษณาในบริการฟรีด้วย
แผนฟรีจำกัดความเร็วเอาไว้ที่2 Mbps แต่ฉันก็ไม่พบกับความเร็วที่ลดลงมากแต่อย่างใดโปรโตคอลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริการอย่างHydra ช่วยให้ฉันมีความเร็วในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและยังปลอดภัยมากอีกด้วย(นอกจากนี้ยังมีPerfect forward secrecy การป้องกันการรั่วไหลของDNS และKill switch) ในการทดสอบของฉันเว็บไซต์ใช้เวลาโหลด2–3 วินาทีและฉันสามารถรับชมวิดีโอบนYouTube ได้โดยไม่มีการสะดุดแต่ว่าExpressVPNและCyberGhost VPNให้ความเร็วการเชื่อมต่อที่มากกว่าและเซิร์ฟเวอร์ของProton VPN ยังมีความเร็วกว่าเซิร์ฟเวอร์ของHotspot Shield อีกด้วย
แต่แผนบริการฟรีให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ใน 3 ประเทศเท่านั้น ได้แก่: อเมริกา อังกฤษและสิงคโปร์ ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ไม่มาก แต่ผู้ใช้ในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรปและเอเชียก็มีเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้พวกเขาให้เชื่อมต่อ ฉันชอบ 2 ตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ในอเมริกาเป็นอย่างมาก (นิวยอร์คและลอสแองเจลิส) เพราะผู้ใช้ในฝั่งตะวันตกและออกมีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้เคียงให้ใช้งาน
เวอร์ชันฟรีของHotspot Shield นั้นยังขาดการรองรับการสตรีมมิ่งและการโหลดtorrent อีกด้วย และคุณก็จะสามารถเชื่อมต่อได้แค่1 อุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อย่าง Split-tunneling, การเชื่อมต่ออัตโนมัติและเชื่อมต่อเมื่อเปิดใช้งาน
บริการฟรีของHotspot Shield ไม่รองรับการสตรีมมิ่งและทอร์เรนต์จำกัดการใช้งานบน1 อุปกรณ์เท่านั้น(ไม่รองรับการใช้งานบนเราท์เตอร์เหมือนกับ3 บริการชั้นนำ) แต่อย่างไรก็ตามบริการนำเสนอส่วนขยายบนChrome ฟรีและมีฟีเจอร์Split-tunneling ฟีเจอร์เชื่อมต่ออัตโนมัติและฟีเจอร์การเปิดใช้งานในทันที
Hotspot Shield นั้นมีแพลนสมัครสมาชิกรายเดือนและรายปีราคาเริ่มต้นที่£2.36 / เดือน— มันจะนำการบันทึกIP ออกและก็จะเปิดให้คุณเข้าถึง1,800+ เซิร์ฟเวอร์ใน80+ ประเทศ(รวมถึงประเทศไทย)เพิ่มการรองรับการสตรีมมิ่งและก็ยังมีการรับประกันคืนเงินภายใน45 วันอีกด้วย
สรุป:
แพลนระดับฟรีของHotspot Shield นั้นเหมาะมากสำหรับใช้ท่องเว็บเนื่องจากมันมีข้อมูลให้ใช้งานได้ไม่จำกัดและก็มีความเร็วสูงแต่มันจะจำกัดให้คุณเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ได้แค่ใน3 ประเทศและ1 อุปกรณ์รวมถึงมีการบันทึกที่อยู่IP ของคุณเวอร์ชันแบบจ่ายเงินนั้นจะนำการบันทึกIP ออกจะเพิ่มการเชื่อมต่อให้เป็น10 การเชื่อมต่อมีเซิร์ฟเวอร์มากขึ้นและก็มีความปลอดภัยที่ดีกว่าราคาก็ไม่แพงและมีการรับประกันคืนเงินภายใน45 วันอีกด้วย
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับHotspot Shield ได้ที่นี่
6. Windscribe— VPN ฟรีดีใช้ได้สำหรับสตรีมมิ่ง
Windscribe นั้นเป็นผู้ให้บริการน้อยรายที่มีแพลนฟรีซึ่งรองรับการสตรีมมิ่ง — มันสามารถใช้งานกับเว็บไซต์ชั้นนำอย่าง Netflix, Max และ Amazon Prime ได้ นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานของเราที่อยู่สหราชอาณาจักรก็ได้ช่วยยืนยันแล้วว่าเขาสามารถดู BBC iPlayer ที่นั่นได้ด้วย นอกจากนี้ มันยังเป็นหนึ่งใน VPN ฟรี น้อยรายที่เปิดให้เชื่อมต่อพร้อมกันได้ไม่จำกัดจำนวนการเชื่อมต่อ ดังนั้นคุณอยากจะใช้กี่เครื่องก็ได้ไม่มีจำกัด ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่กำลังมองหา VPN ฟรี ไว้ใช้งาน
อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่ค่อยประทับใจกับWindscribe เท่าไหร่นั่นก็คือบริการจำกัดข้อมูลการใช้งานคุณจะได้รับข้อมูล2 GB ต่อเดือนแต่บริการจะเพิ่มเป็น10 GB ให้ถ้าหากคุณให้อีเมล์กับบริการสิ่งนี้ทำให้ฝ่ายการตลาดของVPN สามารถติดต่อเพื่อนำเสนอบริการให้กับคุณได้ในขณะที่ข้อมูล10 GB ถือว่าเป็นจำนวนข้อมูลที่มากพอ(สามารถรับชมวีดีโอความคมชัดแบบHD ได้5-7 วิดีโอ) แต่ฉันก็ชอบแผนฟรีของProton VPN มากกว่าเพราะบริการไม่ได้จำกัดข้อมูลการใช้งาน
Windscribe มีความเร็วที่ดีในระหว่างการทดสอบเว็บไซต์ต่างๆใช้เวลาโหลดประมาณ4 วินาทีและวิดีโอความคมชัดแบบHD ใช้เวลาโหลด4–5 วินาทีซึ่งถือว่าเป็นความเร็วที่พอรับได้แต่ก็ไม่ใช่ความเร็วที่เทียบได้กับบริการชั้นนำในรายการนี้
Windscribe เปิดให้คุณเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ใน10+ ประเทศและมันก็ยังมีsplit-tunneling อีกด้วย— เรารู้สึกประทับใจมากที่เห็นว่าสามารถใช้split-tunnel ได้ทั้งสำหรับแอปและที่อยู่IP นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงอย่างperfect forward secrecy, เซิร์ฟเวอร์แบบRAM-only และการป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ
คุณจะสามารถใช้งานตัวบล็อกโฆษณาและมัลแวร์ได้บางส่วนด้วยผ่านฟีเจอร์R.O.B.E.R.T ฟีเจอร์นี้จะช่วยบล็อกเนื้อหาบางชนิดบนเว็บไซต์เช่นการพนันคลิกเบตและคริปโตรวมถึงเว็บไซต์โซเชียลมีเดียอย่างเช่นFacebook
เวอร์ชันจ่ายเงินของWindscribe นั้นมีราคาเริ่มต้นที่£4.54 / เดือนและมันก็จะเปิดให้คุณใช้งานเซิร์ฟเวอร์ได้มากขึ้นใน65+ ประเทศ(รวมถึงประเทศไทย)น่าเสียดายที่มันมีการรับประกันคืนเงินเพียงแค่3 วัน
สรุป:
แผนฟรีของWindscribe สามารถเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมอย่างMax, Netflix และBBC iPlayer ได้เชื่อมต่อได้ไม่จำกัดอุปกรณ์แต่จำกัดข้อมูลการใช้งานที่10 GB ต่อเดือนนอกจากนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า10 ประเทศมีความเร็วที่ดีมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งแผนบริการพรีเมียมเพิ่มการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในหลายประเทศมีราคาไม่แพงและมาพร้อมกับรับประกันคืนเงินภายใน3 วัน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับWindscribe ได้ที่นี่
7. TunnelBear— VPN ฟรีที่ดีมากสำหรับผู้ใช้งานใหม่
TunnelBear นั้นมีแดชบอร์ดที่เข้าใจได้ง่ายมากๆสำหรับแอปทั้งหมด— ฟีเจอร์ทั้งหมดของมันนั้นถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีและเข้าถึงได้ง่ายทั่วทั้งแอปนั้นจะมีตัวการ์ตูนรูปหมีที่จะคอยช่วยให้คุณเข้าใจและใช้งานฟังก์ชั่นทั้งหมดได้
เราชอบมากที่แอปทั้งหมดของมันนั้นมาพร้อมกับแผนที่แบบตอบสนองซึ่งมันจะทำให้คุณสามารถคลิกเลือกประเทศที่ถูกปักหมุดเพื่อทำการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศนั้นๆได้มันทำให้การเชื่อมต่อสะดวกมากๆเพราะคุณไม่ต้องเลื่อนหาเซิร์ฟเวอร์จากรายการทั้งหมดที่มี
น่าเสียดายที่แผนฟรีของTunnelBear อ่านจำกัดข้อมูลการใช้งานที่2 GB ต่อเดือนซึ่งมากพอสำหรับการใช้งานทั่วไปบริการฟรีของบริการนี้เหมาะสำหรับใช้ทดสอบบริการVPN (และหากชอบคุณก็สามารถอัปเกรดเป็นแผนพรีเมียมของTunnelBear ได้) มากกว่าใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป
แพลนระดับฟรีของ TunnelBear นั้นจะมีเซิร์ฟเวอร์ให้ใช้ถึง 5,000+ เซิร์ฟเวอร์ใน 47 ประเทศ ซึ่งทำให้การค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งจริงของคุณที่สุดเพื่อให้ได้ความเร็วสูงที่สุดนั้นเป็นเรื่องง่าย ในการทดสอบของเรา TunnelBear นั้นมีความเร็วที่สูงมาก แต่ก็ยังไม่เร็วเท่ากับแพลนระดับฟรีของhide.me, Proton VPNและHotspot Shieldเว็บไซต์และวิดีโอความชัดระดับHD นั้นใช้เวลาโหลดเสร็จภายใน3–4 วินาทีแต่ความเร็วในการท่องเว็บโดยรวมก็ยังถือว่าดี
มันยอดเยี่ยมมากที่TunnelBear ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์พรีเมียมได้ทั้งหมดรวมถึงGhostBear ที่จะช่วยหลีกเลี่ยงการปิดกั้นVPN ในบางประเทศที่มีการจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวดและSplitBear ฟีเจอร์Split-tunneling ของTunnelBear ที่ให้คุณสามารถเลือกได้ว่าแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ใดที่ต้องการเชื่อมต่อผ่านเซิฟเวอร์VPN นอกจากนี้TunnelBear ยังให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งบริการได้บนอุปกรณ์ไม่จำกัดจำนวนแต่จะจำกัดการใช้งานที่2 GB ต่อเดือนเท่านั้น
หากคุณต้องการจะใช้ข้อมูลอย่างไม่จำกัดคุณต้องอัปเกรดไปใช้แพลนระดับพรีเมียมของTunnelBearซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่£3.29 / เดือน
สรุป:
แพลนระดับฟรีของTunnelBear นั้นมาพร้อมกับแอปที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมือใหม่และมันก็รักษาความเร็วได้ดีเปิดให้เชื่อมต่อได้ไม่จำกัดและก็เปิดให้ผู้ใช้งานฟรีสามารถใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดได้อย่างไรก็ตามแพลนระดับฟรีของTunnelBear นั้นจะมีข้อมูลให้ใช้แค่2 GB ต่อเดือนซึ่งก็เพียงพอสำหรับใช้ดูวิดีโอสั้นๆไม่กี่วิดีโอเท่านั้นการอัปเกรดไปใช้แพลนระดับพรีเมียมของTunnelBear จะเปิดให้คุณใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับTunnelBear ได้ที่นี่
โบนัส. Private Internet Access— VPN ราคาไม่แพงที่มีความเร็วสูง
Private Internet Access นั้นเป็นหนึ่งในVPN ที่มีราคาถูกที่สุดเริ่มต้นเพียง£1.63 / เดือนถึงแม้ว่ามันจะไม่มีแพลนระดับฟรีแต่PIA นั้นก็มีการรับประกันคืนเงินภายใน30 วันสำหรับทุกแพลนดังนั้นคุณสามารถทดลองใช้มันได้อย่างไม่มีความเสี่ยง
นอกจากนี้บริการยังไม่จำกัดข้อมูลการใช้งานPIA มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ยอดเยี่ยมในกว่า91 ประเทศบริการไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ดังนั้นทุกคนในครอบครัวของคุณจะได้รับการปกป้องช่วยให้ทุกคนสามารถใช้งานสตรีมมิ่งทอร์เรนต์และเล่นเกมได้อย่างปลอดภัย
สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับPIA ก็คือมันมีความเร็วสูงมากถึงจะยังไม่เร็วเท่ากับExpressVPNก็ตามในการทดสอบของเราเว็บไซต์และวิดีโอทั้งหมดโหลดเสร็จในทันทีและวิดีโอความชัดระดับ4K นั้นก็ใช้เวลาโหลดเพียงแค่1–2 วินาทีซึ่งก็ถือว่าเร็วมากๆ
PIA นั้นเป็นหนึ่งในVPN ที่เราชื่นชอบเพราะว่ามันมีความปลอดภัยสูงมันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงอย่างเช่นเซิร์ฟเวอร์แบบRAM-only,perfect forward secrecy และการป้องกันการรั่วไหลเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่ดีที่สุดของมันนั้นคือตัวบล็อกโฆษณาที่ชื่อว่า PIA MACEซึ่งจะบล็อกโฆษณาตัวติดตามและเว็บไซต์ที่มุ่งร้ายตอนที่เราทดลองใช้ดูนั้นมันก็สามารถบล็อกโฆษณาทั้งหมดบนเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยโฆษณาได้และมันก็หยุดไม่ให้เราเข้าเว็บไซต์ที่ดูไม่น่าเชื่อถือได้ในทุกๆครั้ง
มันจะรองรับการสตรีมมิ่งและการโหลดtorrent ได้เป็นอย่างดีอีกด้วยมันสามารถใช้งานได้กับเว็บไซต์สตรีมมิ่งชั้นนำอย่างNetflix, Hulu และAmazon Primeนอกจากนี้มันยังเปิดให้คุณโหลดtorrent ได้บนทุกเซิร์ฟเวอร์อีกด้วยเราได้ดาวน์โหลดไฟล์P2P มามากมายผ่านPIA ด้วยการใช้ไคลเอนต์torrent ต่างๆเช่นBitTorrent กับVuze และเราก็ไม่เจอปัญหาใดๆเลย
มันมีฟีเจอร์ split-tunneling ที่ใช้งานได้ดีมากด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถ split-tunnel แอปและที่อยู่ IP ได้ นอกจากนี้มันยังสามารถปรับแต่งได้เป็นอย่างดี — ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกใช้งานระหว่างการเข้ารหัส 128-bit (เร็วกว่าแต่ปลอดภัยน้อยกว่า) กับ 256-bit ซึ่งจะช้ากว่าแต่ปลอดภัยมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น UI ของมันสามารถแสดงค่าเป็นภาษาไทยได้สำหรับอุปกรณ์ส่วนใหญ่
สรุป:
Private Internet Access นั้นเป็นหนึ่งในVPN ที่มีราคาถูกที่สุดที่คุณจะหาได้ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยชั้นหนึ่งประกอบไปด้วยตัวบล็อกโฆษณาตัวติดตามมัลแวร์และความสามารถการรองรับสตรีมมิ่งและP2P ได้เป็นอย่างดีมันไม่มีแพลนระดับฟรีแต่แพลนทั้งหมดของมันนั้นมีการรับประกันคืนเงินภายใน30 วัน
อ่านรีวิวฉบับเต็มเกี่ยวกับPrivate Internet Access ได้ที่นี่
การเปรียบเทียบระหว่างVPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี2024
VPN | ราคาเริ่มต้น | ข้อมูลจำกัด | จำนวนประเทศ | การเชื่อมต่อพร้อมกัน | รองรับการสตรีมมิ่ง | การรองรับการโหลดบิท (จำนวนประเทศ) | การรับประกันคืนเงิน |
1.🥇ExpressVPN | £5.24 / เดือน | ไม่จำกัด | 100+ | 8 | ✅ | 100+ (รวมถึงประเทศไทย) | 30 วัน |
2.🥈CyberGhost VPN | £1.78 / เดือน | ไม่จำกัด | 100+ | 7 | ✅ | 70+ (รวมถึงประเทศไทย) | 45 วัน(บริการระยะยาว) 14 วัน(บริการรายเดือน) |
3.🥉Proton VPN | £3.94 / เดือน | ไม่จำกัด | 5 | 1 | ❌ | ❌ | 30 วัน |
4. hide.me | £1.75 / เดือน | 10 GB/เดือน | 5+ | 1 | ❌ | 5+ | 30 วัน |
5. Hotspot Shield | £2.36 / เดือน | ไม่จำกัด | 3 | 1 | ❌ | ❌ | 45 วัน |
6. Windscribe | £4.54 / เดือน | 10 GB/เดือน | 10+ | ไม่จำกัด | ✅ | 10+ | 3 วัน |
7. Tunnelbear | £3.29 / เดือน | 2 GB/เดือน | 45+ | ไม่จำกัด | ❌ | 45+ | ❌ |
โบนัส. Private Internet Access | £1.63 / เดือน | ไม่จำกัด | 90+ | ไม่จำกัด | ✅ | 80+ | 30 วัน |
วิธีการเลือกVPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี2024
- เลือกVPN ที่มีแพลนระดับฟรีคุณภาพดีแพลนระดับฟรีของVPN ส่วนใหญ่นั้นจะมีข้อจำกัดเยอะมาก— เพื่อที่จะใช้งานได้อย่างมีความสุขคุณควรจะเลือกVPN ฟรีที่มีข้อมูลให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม(Proton VPNมีข้อมูลให้ใช้ได้ไม่จำกัด) และต้องไม่สแปมคุณด้วยโฆษณาเปิดให้คุณสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้หลายแห่งหรือต้องมีการรองรับP2P หรือสตรีมมิ่ง
- มองหาVPN ที่มีความปลอดภัยสูงVPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับมาตรฐาน เช่นการเข้ารหัส256-bit AES (หนึ่งในการเข้ารหัสที่แน่นหนาที่สุดในโลกซึ่งธนาคารก็เลือกใช้แบบเดียวกันนี้), kill switch ที่จะตัดการเชื่อมต่อินเทอร์เน็ตหากการเชื่อมต่อVPN ของคุณถูกตัดไป, นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่จะป้องกันไม่ให้VPN เก็บข้อมูลของคุณหรือการป้องกันการรั่วไหลของ IPv6, DNS หรือWebRTC
- เลือกVPN ที่มีความเร็วสูงVPN ทุกตัวนั้นต่างก็จะทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณตกลงเพราะกระบวนการเข้ารหัสVPN ฟรีนั้นมักจะมีความเร็วที่ต่ำกว่าVPN พรีเมียมเนื่องจากมันจะเปิดให้ใช้งานเซิร์ฟเวอร์ได้น้อยกว่าซึ่งทำให้คนแย่งกันใช้จนการเชื่อมต่อนั้นมีความเร็วที่ตกลงแต่ตัวเลือกVPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นต่างก็มีความเร็วที่ดีใช้ได้(ExpressVPNนั้นเร็วที่สุด)
- เลือกผู้ให้บริการที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานVPN ฟรีหลายรายนั้นมีแอปที่เต็มไปด้วยบัคและก็ใช้งานยากแต่VPN ทุกตัวในรายการนี้นั้นมีแอปที่ใช้งานและติดตั้งง่ายสำหรับทุกระบบปฏิบัติการสำคัญ
- เลือกผู้ให้บริการที่คิดเงินในราคาไม่แพงและก็มีความคุ้มค่าดีแพลนแบบจ่ายเงินของVPN นั้นควรจะมีราคาไม่แพงและก็เปิดให้เข้าถึงฟีเจอร์ได้มากยิ่งขึ้นอย่างเช่นเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่การรองรับการสตรีมมิ่งและP2P ได้ดีและการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์และถ้ามีการรับประกันคืนเงินสำหรับทุกคำสั่งซื้อก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก
ความเสี่ยงและข้อเสียของการใช้VPN ฟรี
- ความปลอดภัยที่ไม่แน่นหนา— VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นจะขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยสำคัญซึ่งก็ทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของการใช้VPN ยกตัวอย่างเช่นการที่ไม่มีการเข้ารหัสอย่างแน่นหนาการที่บุคคลที่สามสามารถติดตามพฤติกรรมการใช้งานของคุณได้และก็ไม่มีkill switch ทำให้ข้อมูลของคุณอาจรั่วไหลไปสู่อินเทอร์เน็ตถ้าการเชื่อมต่อของVPN เกิดล้มเหลวขึ้นมาวิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องตัวคุณเองอย่างเต็มรูปแบบก็คือการใช้VPN ที่มีความน่าเชื่อถืออย่างที่ถูกเลือกมาในรายการนี้
- ความเร็วต่ำ— VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นจะเปิดให้คุณเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้แค่ไม่กี่เซิร์ฟเวอร์ทำให้เกิดการแย่งกันใช้และท้ายที่สุดก็ทำให้ความเร็วตกอย่างไรก็ตามVPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นสามารถรักษาความเร็วได้ดี
- เซิร์ฟเวอร์ถูกขึ้นบัญชีดำ— เซิร์ฟเวอร์ที่มีให้ใช้งานบนVPN ฟรีนั้นมักจะไม่ได้เปลี่ยนที่อยู่IP เป็นประจำนี่หมายความว่าที่อยู่IP ส่วนใหญ่นี้ก็จะถูกบล็อกหรือถูกขึ้นบัญชีดำทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงบางเว็บไซต์ได้
- รองรับการสตรีมมิ่งได้ไม่ค่อยดี — VPN ฟรี ส่วนใหญ่นั้นจะไม่รองรับการสตรีมมิ่ง และ VPN ฟรี ที่รองรับเว็บไซต์สตรีมมิ่งนั้นก็มักจะมีการจำกัดเรื่องของข้อมูลรายวันหรือรายเดือน ดังนั้นคุณก็คงจะดูหนังหรือทีวีได้เป็นเวลาไม่นานก่อนที่ข้อมูลจะหมด หากคุณต้องการสตรีมดูเนื้อหาเยอะ ๆ เราแนะนำให้คุณเลือกซื้อ VPN พรีเมียม
- นำข้อมูลของคุณไปขาย— มีVPN ฟรีบางรายที่บันทึกข้อมูลเว็บไซต์ที่คุณเข้าเยี่ยมชมและก็นำข้อมูลนี้ไปขายให้กับเว็บไซต์อื่นเว็บไซต์เหล่านั้นก็จะนำข้อมูลไปทำโฆษณาแบบระบุเป้าหมายกับคุณเพื่อเป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวคุณควรจะเลือกใช้VPN ที่มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว(ExpressVPNและCyberGhost VPN นั้นต่างก็มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบอย่างอิสระแล้ว)
- ข้อมูลจำกัด— VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นมักจะมีข้อจำกัดด้านข้อมูลที่คุณสามารถใช้งานได้ในแต่ละวันหรือแต่ละเดือนดังนั้นคุณก็จะสามารถใช้VPN ฟรีท่องเว็บสตรีมมิ่งในความชัดระดับSD หรือHD ได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงหรืออาจจะได้แค่ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดเล็กๆProton VPNและHotspot Shieldนั้นเป็นVPN ฟรีน้อยรายที่เปิดให้ใช้งานข้อมูลได้ไม่จำกัด
- โฆษณา— VPN บางรายนั้นมีโฆษณาไม่ก็จะมีเนื้อหาที่ได้รับสปอนเซอร์มาภายในแอปหรืออาจจะถูกแสดงตอนที่คุณกำลังท่องเว็บซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ารำคาญยิ่งไปกว่านั้นโฆษณานั้นอาจจะใช้งานแบนด์วิดท์ด้วยซึ่งก็จะทำให้การเชื่อมต่อของคุณช้าลง
- อาจมีมัลแวร์— มีVPN ฟรีบางรายที่แอบใส่มัลแวร์แอดแวร์หรือภัยอันตรายอื่นๆมาซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์และข้อมูลส่วนตัวของคุณแต่VPN ทั้งหมดในรายการนี้นั้นสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- ปัญหาด้านการใช้งานกับอุปกรณ์— VPN ฟรีบางรายนั้นไม่มีแอปสำหรับบางแพลตฟอร์ม(เช่นอุปกรณ์เคลื่อนที่) ยิ่งไปกว่านั้นVPN ฟรีบางรายนั้นยังมีแอปที่ใช้งานยากอีกด้วยโชคยังดีทุกVPN ฟรีที่เราแนะนำนั้นมีแอปที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานสำหรับแพลตฟอร์มสำคัญทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นiOS, Android, Windows หรือmacOS
- บริการลูกค้าที่ไม่มีคุณภาพ— ผู้ให้บริการVPN ฟรีนั้นไม่สามารถจัดหาฝ่ายให้บริการลูกค้าในระดับเดียวกับVPN แบบจ่ายเงินได้นี่หมายความว่าคุณจะต้องเจอกับการตอบสนองที่ล่าช้าและก็การขาดทรัพยากรสนับสนุนถ้าหากว่าคุณเผชิญปัญหากับการใช้งานแอปVPN
VPN ฟรีvs. VPN จ่ายเงิน
VPN ฟรีที่อยู่ในรายการนี้จะมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยปกป้องความปลอดภัยและความเป็นส่วนของคุณมันต่างก็มีการป้องกันระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมประกอบไปด้วยการเข้ารหัส256-bit AES, kill switch และนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลนอกจากนี้VPN บางตัวยังมีเครื่องมือขั้นสูงอย่างเช่นการป้องกันการรั่วไหล, เซิร์ฟเวอร์แบบRAM-only, perfect forward secrecy และการเข้ารหัสดิสก์อย่างเต็มรูปแบบเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น
VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นจะขาดฟีเจอร์ที่VPN พรีเมียมมีซึ่งก็หมายความว่ามันมักจะมีจำนวนเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัดมีการจำกัดการใช้ข้อมูลและก็สามารถเชื่อมต่อได้น้อยกว่าแถมมันยังทำการควบคุมความเร็วของคุณและก็ไม่รองรับการสตรีมมิ่งและP2P อีกด้วย
นี่เป็นตัวอย่าง— แพลนระดับฟรีของhide.meเปิดให้โหลดtorrent ได้และก็มีความเร็วดีแต่มันจะจำกัดให้คุณใช้ได้แค่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใน5+ ประเทศและก็ใช้ได้แค่1 การเชื่อมต่อโดยมีข้อมูลให้แค่10 GB ต่อเดือนในขณะที่แพลนระดับฟรีของProton VPNจะเปิดให้ใช้งานข้อมูลได้ไม่จำกัดมีความเร็วดีแต่มันจะไม่รองรับการสตรีมมิ่งและP2P และมันก็จะจำกัดให้คุณใช้ได้แค่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใน3 ประเทศโดยใช้ได้แค่1 การเชื่อมต่อ
เมื่อเทียบกับการอัปเกรดไปใช้VPN แบบจ่ายเงินระดับชั้นนำแล้วคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่ามาก— ข้อมูลที่ไม่จำกัดเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่การเชื่อมต่อพร้อมกันหลายอุปกรณ์ความเร็วที่สูงมากฟีเจอร์เสริมอื่นๆอย่างเช่นsplit tunneling และตัวบล็อกโฆษณาและก็สามารถรองรับการสตรีมมิ่งและการโหลดtorrent ได้อย่างเต็มรูปแบบแถมVPN ส่วนใหญ่นั้นยังมีราคาที่แข่งขันได้และก็รับประกันทุกคำสั่งซื้อด้วยการรับประกันคืนเงินภายใน30 วันดังนั้นคุณจึงสามารถทดลองผลิตภัณฑ์ได้อย่างไม่มีความเสี่ยง
โดยรวมแล้วVPN ฟรีดีๆนั้นก็มีให้เลือกใช้อยู่แต่ว่ามันก็ยังถูกจำกัดเยอะอยู่ดี— VPN แบบจ่ายเงินนั้นจะใช้งานได้ดีกว่าเยอะ
ฟีเจอร์ | VPN ฟรี | VPN จ่ายเงิน |
ความเป็นส่วนตัว | ❌ (VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นจะเก็บข้อมูลของคุณไปแบ่งปันให้กับบุคคลที่สาม) | ✅ |
ความเร็วสูง | ❌ (มีVPN ฟรีน้อยรายมากที่จะมีความเร็วสูง) | ✅ |
เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ทั้งหมด | ❌ | ✅ |
ข้อมูลไม่จำกัด | ❌ | ✅ |
ฝ่ายให้บริการลูกค้า24/7 | ❌ | ✅ |
รองรับการสตรีมมิ่ง | ❌ (มีVPN ฟรีบางรายเท่านั้นที่รองรับการสตรีมมิ่งแต่มันไม่ค่อยสามารถใช้กับเว็บระดับชั้นนำได้) | ✅ |
รองรับP2P | ❌ | ✅ |
เชื่อมต่อพร้อมกันหลายอุปกรณ์ | ❌ (VPN ฟรีส่วนใหญ่จะจำกัดให้คุณเชื่อมต่อได้แค่1 อุปกรณ์) | ✅ |
ตัวเลือกโปรโตคอลที่หลากหลาย | ❌ (VPN ฟรีบางรายนั้นจะเปิดให้เข้าถึงโปรโตคอลทั้งหมดได้เฉพาะในแพลนแบบจ่ายเงินเท่านั้น) | ✅ |
Double VPN (ถ้ามี) | ❌ | ✅ |
ตัวบล็อกโฆษณาตัวติดตามและมัลแวร์(ถ้ามี) | ❌ (มีVPN ฟรีน้อยรายที่จะเปิดให้คุณเข้าถึงตัวบล็อกโฆษณาได้และมันก็มักจะเป็นเวอร์ชันที่ถูกจำกัดด้วย) | ✅ |
VPN ฟรีหาเงินมาจากไหน?
- การโฆษณาหนึ่งในวิธีที่พบเห็นได้บ่อยมากที่สุดสำหรับการสร้างผลตอบแทนของVPN ฟรีก็คือการแสดงโฆษณาให้ผู้ใช้งานดูดังนั้นก็เป็นเรื่องไม่แปลกเลยถ้าคุณพบเจอโฆษณาทั้งแบบแบนเนอร์ป๊อปอัพหรือเนื้อหาสปอนเซอร์ในVPN ฟรีบางรายผู้โฆษณานั้นจะจ่ายเงินให้กับผู้ให้บริการVPN ขึ้นกับจำนวนครั้งที่แสดงจำนวนคลิกหรือวิธีการประเมินประสิทธิภาพโฆษณาแบบอื่นๆ
- แพลนระดับพรีเมียมVPN บางรายนั้นจะจัดให้มีเวอร์ชันฟรีซึ่งจะถูกจำกัดแบนด์วิดท์ฟีเจอร์และตัวเลือกของเซิร์ฟเวอร์— ทั้งนี้ส่วนใหญ่ก็เพื่อให้คุณได้ทดลองใช้VPN ก่อนที่คุณจะสั่งซื้อหรือสมัครสมาชิกผู้ให้บริการVPN เหล่านี้นั้นจะมีผู้ใช้งานที่จ่ายเงินและพวกเขาก็จะมีรายได้มากพอที่จะรองรับการให้บริการVPN แบบฟรีควบคู่ไปด้วยได้(แต่ก็มักจะมีข้อจำกัด)
- นำข้อมูลผู้ใช้งานไปขายน่าเสียดายที่VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นจะมีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานไปขาย(เช่นข้อมูลประชากรหรือประวัติการท่องเว็บ) ให้กับผู้โฆษณาบุคคลที่สามนายหน้าค้าข้อมูลหรือบุคคลอื่นๆที่สนใจซื้อเพราะแบบนี้เราถึงมักจะแนะนำให้ผู้อ่านหันไปเลือกใช้VPN พรีเมียมราคาไม่แพงอย่างExpressVPNมากกว่าแต่VPN ทั้งหมดในรายการของเรานั้นก็มาพร้อมกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลดังนั้นมันจะไม่เก็บข้อมูลของคุณและก็จะไม่มีอะไรไปขาย
VPN ฟรีนั้นเหมาะกับใคร?
VPN ฟรีนั้นเหมาะกับการใช้งานอย่างมีความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยขั้นพื้นฐานโดยไม่ต้องเสียเงินมันจะเหมาะที่สุดถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานต่อไปนี้:
- ผู้ใช้งานที่เป็นห่วงเรื่องงบประมาณ:หากคุณต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์แต่คุณไม่ต้องการจ่ายเงินเพิ่มการเลือกVPN ฟรีที่มีคุณภาพนั้นก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณมันจะมีการปกป้องขั้นพื้นฐานให้คุณเช่นการปิดบังที่อยู่IP จริงและการเข้ารหัสเว็บทราฟฟิคของคุณ
- ผู้ใช้งานVPN แบบครั้งคราว:ถ้าคุณใช้VPN แค่แบบนานๆครั้งอย่างเช่นการเข้าถึงเครือข่ายWi-Fi สาธารณะการเลือกใช้VPN ฟรีคุณภาพดีก็เพียงพอสำหรับคุณแล้วด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถปกป้องข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยได้ไม่ว่าคุณจะเชื่อมต่อที่ไหนก็ตามอย่างเช่นสนามบินร้านกาแฟหรือโรงยิม
- ผู้ใช้งานVPN ใหม่:หากคุณยังไม่เคยใช้VPN มาก่อนเลยVPN ฟรีก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทดลองใช้งานอย่างไม่มีเงื่อนไขผูกมัดอย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าVPN ฟรีนั้นมีข้อจำกัดอย่างเช่นความเร็วที่ต่ำกว่าและก็ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่น้อยกว่าและหลายรายก็จะไม่รองรับการสตรีมมิ่งและการโหลดบิทนอกจากนี้ส่วนใหญ่ยังมีการจำกัดการใช้ข้อมูลรายวันและรายสัปดาห์อีกด้วย
โดยรวมแล้วก็ยังมีเหตุผลดีๆให้คุณเลือกใช้VPN ฟรีอยู่แต่คุณควรจะเลือกใช้อย่างระมัดระวังVPN ฟรีนั้นมักจะมีข้อจำกัดและก็มักจะขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยที่จำเป็นไม่ก็มีการนำข้อมูลของคุณไปขายให้กับบุคคลที่สามหากคุณกำลังคิดจะเลือกใช้VPN ฟรีก็อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลให้ได้และเลือกใช้จากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ
วิธีการรับบริการVPN พรีเมียมฟรี
จริงๆแล้วคุณสามารถทดลองใช้VPN ระดับชั้นนำ“แบบฟรี” ได้เนื่องจากส่วนใหญ่มันจะมีข้อเสนอคืนเงินยกตัวอย่างเช่นExpressVPNนั้นจะมีการรับประกันคืนเงินภายใน30 วันสำหรับทุกแพลนในขณะที่CyberGhost VPNจะมีการรับประกันคืนเงินภายใน45 วันสำหรับแพลนระยะยาว(และ14 วันสำหรับแพลนระยะสั้นที่สุด) หากคุณไม่พอใจในการให้บริการของVPN ภายในระยะเวลาคืนเงินคุณก็สามารถขอคืนเงินได้อย่างไม่มีความเสี่ยง
VPN ระดับชั้นนำบางรายนั้นมีเปิดให้ทดลองใช้ได้ฟรีทำให้คุณสามารถทดลองใช้บริการของพวกเขาได้อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าการทดลองใช้ฟรีเหล่านี้นั้นมักจะมีข้อจำกัดหรือก็คือคุณจะไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดได้อันที่จริงCyberGhost VPN นั้นเป็นหนึ่งในVPN น้อยรายที่เปิดให้คุณทดลองใช้งานฟรีและเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดได้เป็นเวลา24 ชั่วโมงสำหรับmacOS และWindows แถมมันยังไม่ขอข้อมูลบัตรเครดิตของคุณด้วย
VPN พรีเมียมบางรายนั้นจะมีแพลนฟรีอย่างเต็มรูปแบบด้วย แต่มันจะมีข้อจำกัดในด้านต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น แพลนระดับฟรีของ Proton VPN นั้นจะมีแบนด์วิดท์ให้ใช้งานได้ไม่จำกัด แต่คุณจะเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้แค่ใน 5 ประเทศเท่านั้น TunnelBear จะเปิดให้คุณเชื่อมต่อไปได้ทุกเซิร์ฟเวอร์ แต่มันจะจำกัดให้คุณใช้ข้อมูลได้แค่เดือนละ 2 GB
VPN ฟรีที่ควรหลีกเลี่ยง
- Hola VPNHola VPN นั้นเป็นP2P VPN ซึ่งหมายความว่ามันจะนำที่อยู่IP ของคุณไปจัดสรรให้คนอื่นใช้และก็จะนำที่อยู่IP ของคนอื่นมาจัดสรรให้คุณใช้นี่เป็นเรื่องที่อันตรายมากๆเพราะอาจมีคนนำมันไปใช้ก่ออาชญากรรมได้และมันก็ยังมีการบันทึกข้อมูลผู้ใช้งานไม่ได้ทำการเข้ารหัสทราฟฟิคของคุณแถมยังเคยมีประวัติการรั่วไหลของที่อยู่IP ผู้ใช้งานมาแล้วด้วย
- SuperVPNSuperVPN นั้นเป็นVPN ที่อันตรายซึ่งมีการบันทึกข้อมูลของคุณเอาไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นที่อยู่IP ระบบปฏิบัติการหรือเบราว์เซอร์ก็ตามมันขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานและก็ไม่มีวิธีติดต่อฝ่ายให้บริการลูกค้าเลยยิ่งไปกว่านั้นSuperVPN ยังเคยเกิดการรั่วไหลของข้อมูลซึ่งทำให้ข้อมูลรั่วไหลออกไปมากถึง133 GB มาแล้วโดยข้อมูลนี้ประกอบไปด้วยที่อยู่IP อีเมลและตำแหน่งของผู้ใช้งาน
- Phone GuardianPhone Guardian นั้นจริงๆก็ไม่ได้ดูน่าสงสัยแต่ว่ามันทำงานไม่เหมือนกับVPN ทั่วไปอย่างเดียวที่มันทำในฐานะVPN ก็คือการเข้ารหัสข้อมูลของคุณ— มันไม่ได้ช่วยซ่อนที่อยู่IP หรือตำแหน่งของคุณและก็ยังไม่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยอย่างkill switch เลยและมันก็ยังขาดฟังก์ชั่นอื่นๆที่VPN ทั่วไปต้องมี
- AceVPNAceVPN นั้นมีฟีเจอร์ที่พอใช้ได้(เช่นการป้องกันการรั่วไหลของDNS) แต่มันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เราแนะนำมันมันไม่มีkill switch ซึ่งเป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยสำคัญและก็มีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์แค่20 แห่งแถมยังมีเซิร์ฟเวอร์P2P แค่1 แห่งเท่านั้นปัญหาเรื่องใหญ่ที่สุดเลยก็คือมันไม่มีแอปเฉพาะสำหรับแต่ละอุปกรณ์ดังนั้นคุณต้องทำการกำหนดและตั้งค่าเองซึ่งก็ไม่สะดวกเป็นอย่างมากเลย
- TouchVPNTouchVPN นั้นมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า5,550+ แห่งใน80+ ประเทศซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากสิ่งที่ไม่น่าประทับใจเลยก็คือการที่มันเก็บข้อมูลที่อยู่IP และเว็บที่คุณเข้าชม
- Hoxx VPNHoxxVPN นั้นจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมบนเว็บไซต์ของคุณอุปกรณ์ของคุณและตำแหน่งของคุณยิ่งไปกว่านั้นมันยังเขียนไว้ในข้อกำหนดการใช้งานว่ามัน“อาจจะ” เก็บข้อมูลนั้นเอาไว้ถึงแม้ว่าคุณจะปิดบัญชีแล้วก็ตาม
- TurboVPNTurboVPN นั้นบอกว่ามันไม่ได้เก็บข้อมูลใดๆเกี่ยวกับกิจกรรมออนไลน์ของคุณเพราะว่ามันมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลแต่มันไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการไม่เก็บข้อมูลที่อยู่IP ของคุณเลย
- TuxlerVPNนโยบายความเป็นส่วนตัวของTuxlerVPN ระบุไว้ว่ามันจะบันทึกกิจกรรมบนเว็บไซต์ข้อมูลเบราว์เซอร์และข้อมูลติดต่อและมันจะแบ่งปันข้อมูลนั้นให้กับบุคคลที่สามด้วยเหตุผลทางธุรกิจ
- FinchVPNเว็บไซต์ของFinchVPN นั้นดูน่าสงสัยมากและก็เต็มไปด้วยบัคมันไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับฟีเจอร์ของVPN เลยและตอนที่เราคลิกอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวมันก็พาเรากลับไปที่โฮมเพจแทน
นอกจากนี้เรายังแอปVPN ที่น่าสงสัยต่างๆอยู่ในapp storeแต่พวกมันไม่มีเพจหรือข้อมูลอื่นๆอย่างเป็นทางการให้เข้าไปดู:
- CrossVPN
- AnonyTun
- OK VPN
- VPN Hat (หรือHat VPN)
- VPNGO (or GO VPN)
แบรนด์ชั้นนำอื่นๆที่ไม่ติดอันดับ:
- PrivadoVPNแพลนระดับฟรีนั้นไม่มีโฆษณามีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลมีการรองรับP2P และสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ใน8 ประเทศแต่มันไม่รองรับการสตรีมมิ่งและก็เปิดให้คุณใช้งานVPN ได้บน1 อุปกรณ์เท่านั้นรวมถึงไม่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยอย่างเซิร์ฟเวอร์แบบRAM-only, perfect forward secrecy และตัวบล็อกโฆษณา
- Atlas VPNVPN นี้มีแพลนระดับฟรีที่เปิดให้ทำการเชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์และก็สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้3 แห่งแต่มันจะจำกัดข้อมูลของคุณไว้ที่5 GB ต่อเดือนซึ่งก็เพียงพอสำหรับใช้ท่องเว็บและดูทีวีได้แค่ไม่กี่รายการเท่านั้นนอกจากนี้บางเซิร์ฟเวอร์ของมันนั้นก็มีความเร็วที่ต่ำและก็มีsplit-tunneling ให้ใช้งานเฉพาะสำหรับAndroid เท่านั้น
- NordVPNผู้ให้บริการรายนี้มีฟีเจอร์ความปลอดภัยดีๆมากมายไม่ว่าจะเป็นการป้องกันโฆษณาและมัลแวร์เครื่องมือติดตามการรั่วไหลของข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์Double VPN แถมยังรองรับสตรีมมิ่งได้ดีและก็มีความเร็วสูงอีกด้วยอย่างไรก็ตามมันไม่มีแพลนระดับฟรี— แต่แพลนจ่ายเงินของมันนั้นมีราคาเริ่มต้นเพียง£2.68 / เดือน
- SurfsharkVPN ที่เปิดให้เชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์สามารถใช้งานได้กับหลายบริการสตรีมมิ่งและก็รองรับP2P ได้เป็นอย่างดีพร้อมทั้งยังมีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่อีกด้วยถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ตามแต่มันไม่มีแพลนระดับฟรี— แพลนจ่ายเงินของมันนั้นมีราคาถูกมากๆเริ่มต้นเพียง£1.81 / เดือน
- ZoogVPN VPN นี้มีแบนด์วิดท์ให้ใช้งานได้ฟรี 10 GB ต่อเดือน แต่แพลนระดับฟรีของมันไม่รองรับการสตรีมมิ่งและมันก็รองรับ P2P ได้อย่างจำกัดมาก ๆ นอกจากนี้ก็ยังไม่มีการเข้ารหัส 256-bit AES ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมด้วย ฟีเจอร์ขั้นสูงอื่น ๆ อย่างเซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only กับ perfect forward secrecy ก็ไม่มี
คำถามพบบ่อย
VPN ฟรีที่ดีที่สุดคือ?
Proton VPNนั้นเป็นตัวเลือก#1 สำหรับเราในแง่ของVPN แบบที่ฟรี100% ปี2024 — มันเป็นหนึ่งใน VPN ฟรี น้อยรายที่เปิดให้ใช้งานแบนด์วิดท์ไม่จำกัด มีความเร็วสูง มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใน 5 ประเทศ และก็มีฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่แน่นหนา
ถึงแม้ว่าVPN ฟรีทั้งหมดในรายการนี้จะดีไม่แพ้กันแต่ExpressVPNก็ยังคงเป็นVPN ที่ดีที่สุดในภาพรวมมันไม่ฟรีแต่ว่ามันมีการรับประกันคืนเงินทุกคำสั่งซื้อเป็นเวลา30 วันExpressVPN นั้นมีความปลอดภัยที่สุดมีความเร็วสูงที่สุดสำหรับการท่องเว็บสตรีมมิ่งโหลดบิทและเล่นเกมและก็มีแอปที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานสำหรับทุกแพลตฟอร์ม
VPN ฟรีนั้นปลอดภัยหรือไม่?
VPN ส่วนใหญ่นั้นไม่ปลอดภัย— VPN ฟรีบางรายจะขาดฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมบางรายก็จะเก็บข้อมูลของคุณและบางรายก็ถึงขั้นมีมัลแวร์ติดมาเลยด้วยแต่ถ้ายังไงคุณก็จะใช้VPN ฟรีเท่านั้นเราขอแนะนำให้เลือกใช้VPN ฟรีจากรายการนี้— hide.me, Proton VPN และWindscribe นั้นต่างก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มีคุณภาพ
VPN ฟรีนั้นถูกกฎหมายหรือไม่?
ถูกกฎหมายทั้งVPN ฟรี(และVPN พรีเมียม) สำหรับประเทศส่วนใหญ่แต่ก็มีข้อยกเว้น— บางประเทศอย่างเช่นจีนอิหร่านอินโดนีเซียและเกาหลีเหนือและอื่นๆนั้นมีการห้ามใช้งานVPN หากคุณถูกจับได้ว่าคุณใช้VPN ในประเทศที่สั่งห้ามใช้งานVPN คุณก็อาจจะถูกปรับหรือถูกจับขังคุกได้
VPN ฟรีสามารถใช้งานกับNetflix และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่นๆได้หรือไม่?
ใช้ได้ มี VPN ฟรีบางตัวที่สามารถใช้งานกับบริการสตรีมมิ่งได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วจะใช้งานกับ Netflix ได้ไม่ดีนัก — ส่วนใหญ่ก็จะใช้งานไม่ได้เลย และบางตัวก็จะใช้งานกับแพลตฟอร์มได้บ้างไม่ได้บ้าง ระหว่างการทดสอบของเรานั้น Windscribe สามารถใช้งานกับ Netflix US และเว็บไซต์ชั้นนำอื่น ๆ ในพื้นที่ของเราได้ อย่างเช่น Amazon Prime US, Max และ Disney+ US ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่แพลนระดับฟรีของ Windscribe ก็จำกัดให้คุณใช้งานได้แค่ 10 GB ต่อเดือนเท่านั้น ดังนั้นคุณก็ไม่สามารถดูรายการบน Netflix อย่างต่อเนื่องได้
มันจะดีกว่าถ้าคุณเลือกใช้ VPN แบบจ่ายเงินอย่าง ExpressVPN — มันสามารถใช้งานกับบริการสตรีมมิ่งได้ถึง 100+ บริการ ซึ่งก็รวมถึง Netflix ด้วยและมันก็จะไม่จำกัดข้อมูลของคุณเลย
มีVPN ฟรีแบบ100% บ้างหรือไม่?
มีและคุณภาพก็ดีด้วยยกตัวอย่างเช่นแพลนระดับฟรีของProton VPN นั้นเปิดให้คุณใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัดมีความเร็วสูงและก็มีความปลอดภัยมากๆนอกจากนี้แพลนระดับฟรีของhide.me ก็ยังเปิดให้คุณสามารถโหลดบิทได้และมีความปลอดภัยกับความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่งแถมให้คุณเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ถึง5+ ประเทศ
แต่ไม่ว่า VPN ฟรี จะดีแค่ไหน มันก็ยังคงมีข้อจำกัด — แพลนระดับฟรีของ Proton VPN นั้นไม่รองรับการสตรีมมิ่งและ P2P และมันก็เปิดให้คุณเชื่อมต่อไปได้แค่ 5 ประเทศ และก็จำกัดให้ใช้งานได้แค่ 1 อุปกรณ์ ในขณะที่แพลนระดับฟรีของ hide.me นั้นจะจำกัดให้คุณใช้งานได้แค่เดือนละ 10 GB และก็ใช้ได้แค่ 1 อุปกรณ์ และไม่รองรับการสตรีมมิ่งอีกด้วย
โดยรวมแล้วคุณจะมีความสุขกว่าเยอะถ้าคุณเลือกใช้งานVPN แบบจ่ายเงินระดับพรีเมียมอย่างExpressVPN — มันมีข้อมูลให้คุณใช้งานได้ไม่จำกัด รักษาความเร็วสูงที่สุด ใช้งานได้กับบริการสตรีมมิ่งกว่า 100+ บริการ มีเซิร์ฟเวอร์ใน 100+ ประเทศ และก็รองรับทราฟฟิค P2P บนทุกเซิร์ฟเวอร์
ฉันสามารถติดตั้งใช้งานVPN ฟรีบนอุปกรณ์ใดได้บ้าง?
VPN ฟรีส่วนใหญ่นั้นจะสามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ยอดนิยมVPN ทั้งหมดในรายการนี้มีแอปที่สามารถใช้งานได้ง่ายสำหรับAndroid, iOS, Windows และmacOS มีน้อยรายที่สามารถใช้งานกับLinux และสมาร์ททีวีได้
VPN รายไหนที่เหมาะที่สุดสำหรับใช้โหลดบิท?
hide.meเป็นVPN ที่เราชื่นชอบสำหรับใช้โหลดบิท— มันเป็นหนึ่งในVPN ฟรีน้อยรายที่สามารถใช้โหลดบิทได้สามารถรักษาความเร็วได้ดีและก็สามารถใช้งานกับแอปโหลดบิทยอดนิยมส่วนใหญ่อย่างBitTorrent, uTorrent, Vuze และอื่นๆได้
ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่แพลนระดับฟรีของhide.me นั้นก็จะจำกัดให้คุณเข้าถึงข้อมูลได้แค่10 GB ต่อเดือนดังนั้นคุณจะสามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้แค่ไม่กี่ไฟล์เท่านั้นการอัปเกรดไปใช้แพลนจ่ายเงินจะทำให้คุณใช้งานข้อมูลได้ไม่จำกัดสามารถเข้าถึง2,300+เซิร์ฟเวอร์ใน50+ ประเทศและใช้งานพร้อมกันได้ถึง10การเชื่อมต่อ
แต่ ExpressVPN ก็ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับใช้โหลดบิทของเรา เนื่องจากมันมีฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับชั้นนำ มีความเร็วสูงที่สุด มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ใน 100+ ประเทศ ซึ่งรองรับทราฟฟิค P2P ทั้งหมด และก็มี port forwarding (คือทำให้คุณเชื่อมต่อหา peers ได้มากขึ้นเพื่อให้ดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น)
VPN ฟรีรายไหนเร็วที่สุด?
Proton VPNเป็นVPN ฟรีที่เร็วที่สุดในรายการนี้— จากการทดสอบของเรานั้นเว็บไซต์โหลดเสร็จใน2–3 วินาทีวิดีโอความชัดระดับHD โหลดเสร็จใน3 วินาทีและไฟล์ขนาด2.2 GB ก็ใช้เวลาโหลดเพียง7 นาทีเท่านั้นแต่แพลนระดับฟรีของProtonVPN นั้นมีข้อจำกัดอย่างเห็นได้ชัด– มันเปิดให้คุณเชื่อมต่อได้แค่1 อุปกรณ์และก็ไม่รองรับการสตรีมมิ่งแถมยังจำกัดให้คุณใช้งานได้แค่เซิร์ฟเวอร์ใน3 ประเทศเท่านั้น
ดังนั้นท้ายสุดแล้วมันก็จะดีกว่าถ้าคุณเลือกใช้VPN พรีเมียมอย่าง ExpressVPN แทน — มันเป็น VPN ที่มีความเร็วสูงที่สุด และก็ยังมาพร้อมกับข้อมูลแบบไม่จำกัด สามารถเชื่อมต่อได้ 8 อุปกรณ์ รองรับแอปสตรีมมิ่งเป็น 100+ แอป และก็มีเซิร์ฟเวอร์ใน 100+ ประเทศ
VPN ฟรีรายไหนที่เหมาะที่สุดสำหรับใช้เล่นเกม?
VPN ที่ดีที่สุดสำหรับใช้เล่นเกมก็คือ ExpressVPN มันสามารถรักษาความเร็วได้ดีที่สุด ระหว่างเล่นเกมออนไลน์จะไม่มีอาการแลคและค่าปิงต่ำ นอกจากนี้มันยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยดีเยี่ยม อย่างเช่นการป้องกัน DDoS และมันยังเป็น VPN น้อยรายที่มีการรองรับระบบคลาวด์ด้วย แถมคุณยังจะได้รับบริการจากแอปเราเตอร์และ smart DNS ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อไปยัง VPN ผ่าน PlayStation และ Xbox ได้
VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี2024— คะแนนสุดท้าย:
อันดับ
ผู้ให้บริการ
คะแนนทั้งหมด
ข้อเสนอที่ดีที่สุด
1
9.8
ประหยัด 49%
เยี่ยมชมเว็บไซต์
2
9.4
ประหยัด 84%
เยี่ยมชมเว็บไซต์
3
8.4
ประหยัด 50%
เยี่ยมชมเว็บไซต์
4
7.8
ประหยัด 74%
เยี่ยมชมเว็บไซต์
5
7.8
ประหยัด 77%
เยี่ยมชมเว็บไซต์
เกี่ยวกับผู้เขียน
เอริค โกลด์สไตน์
หัวหน้าบรรณาธิการ
อัพเดท: 4 เมษายน 2024
เกี่ยวกับผู้เขียน
เอริค โกลด์สไตน์ เป็นหัวหน้าบรรณาธิการที่ SafetyDetectives ในฐานะนักค้นคว้าด้านความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตและนักข่าวไอที เขามีประสบการณ์ 2 ปีด้านการเขียนและจัดเรียงบทความและบล็อกโพสต์เกี่ยวกับ VPN แอนตี้ไวรัส เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน ระบบควบคุมสำหรับผู้ปกครอง และผลิตภัณฑ์กับเครื่องมือป้องกันเอกลักษณ์บุคคล นอกจากนี้่แล้ว เอริคยังเขียนและจัดเรียงข่าวที่เกี่ยวกับปัญหาทางด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ให้กับ SafetyDetectives ด้วย นอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์ถึง 20+ ปี ในฐานะนักเขียนเกี่ยวกับกีฬาให้กับสื่อหลายสำนัก พร้อมเคยทำหน้าที่สื่อสารให้กับองค์กรระดับประเทศมาแล้ว ในยามว่างของเขานั้น เขามักจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ออกกำลังกาย และดูการแข่งกีฬาของทีมที่เขาชื่นชอบ
978 904